วันอังคารที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567

พิธีเปิดการฝึกภาคสนาม FTX การฝึกผสม Cope Tiger 2024 กองทัพอากาศไทย-สหรัฐฯ-สิงคโปร์




US, Singapore, Thai service members participate in annual Cope Tiger
F-35A Lightning IIs from Eielson Air Force Base, Alaska and F-16C Fighting Falcons from Kunsan Air Base, Republic of Korea, prepare to taxi prior to the start of Cope Tiger 2024, Korat Royal Thai Air Force Base, Thailand, March 12, 2024. 
U.S. participation in Cope Tiger demonstrates our commitment to two integral partner nations. Working together we have partnered to address regional security threats, humanitarian crises, and natural disasters. (U.S. Air Force photo by Tech. Sgt. Hailey Haux)








35th Fighter Squadron Pantons ‘push’ west for Cope Tiger 2024
An F-16 Fighting Falcon taxis out for a routine training flight ahead of for Cope Tiger 24 at Korat Royal Thai Air Force Base, Kingdom of Thailand, March 12, 2024. CT 24 is an annual trilateral aerial exercise taking place this year March 18-29.
The exercise contributes to the U.S. Indo-Pacific Command’s strategic vision of strengthening Alliances and partnerships to ensure regional peace and prosperity allowing participating service members a unique opportunity to fly over Thailand’s airspace while training with air defense units. (U.S. Air Force photo by Senior Airman Karla Parra)  



พิธีเปิดการฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) ของการฝึกผสมโคปไทเกอร์ ประจำปี 2567 (Cope Tiger 2024)
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 เวลา 15.00 น. นาวาอากาศเอก อานนท์  จารุสมบัติ ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2024 ฝ่ายไทย Colonel Sebastian Chai ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2024 ฝ่ายสาธารณรัฐสิงคโปร์ 
และ Colonel JEFFREY D. SHULMAN ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสม Cope Tiger 2024 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ภาคพื้นแปซิฟิก เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดการฝึกภาคสนาม (Field Training Exercise : FTX) ของการฝึกผสมโคปไทเกอร์ ประจำปี 2567 (Cope Tiger 2024) 
ซึ่งจะมีการฝึกระหว่างวันที่ 18 – 29 มีนาคม 2567 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา กองบิน 2 สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก จังหวัดลพบุรี และกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี 
โดยมีกำลังพลที่เข้าร่วมการฝึกผสมทั้ง 3 ชาติ ร่วมในพิธี ณ หอประชุมธูปะเตมีย์ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
การฝึกผสมโคปไทเกอร์ (Multi-Lateral Exercise Cope Tiger) ถือได้ว่าเป็นการฝึกผสมทางอากาศที่มีการสนธิกำลังทางอากาศใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีการนำกำลังทางอากาศ จาก 3 ชาติ ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐสิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการฝึก 
โดยพัฒนารูปแบบการฝึกให้เข้ากับสถานการณ์การสู้รบในปัจจุบัน ได้แก่ การสมมติสถานการณ์เสมือนจริง ทั้งด้านการควบคุมและสั่งการ การฝึกยุทธวิธีการรบระหว่างเครื่องบินรบต่างแบบ การฝึกโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายภาคพื้นดินที่มีการต่อต้านจากอาวุธของหน่วยต่อสู้อากาศยานภาคพื้น 
การฝึกด้านการข่าวกรองยุทธวิธี โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ และการให้การสนับสนุนของหน่วยสนับสนุนต่าง ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ สำหรับวัตถุประสงค์ในการฝึกครั้งนี้ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถใช้อากาศยานแบบผสม และเพิ่มทักษะของผู้เข้าร่วมการฝึก ไม่ว่าจะเป็นด้านยุทธวิธีและการสื่อสาร 
รวมไปถึงการดำเนินกลยุทธ์ โดยเฉพาะการวางแผนทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศที่เข้าร่วมการฝึกอีกด้วย
การฝึกผสมโคปไทเกอร์ 2024 ในครั้งนี้ ถือเป็นการครบรอบ 30 ปี การฝึกครั้งนี้ มีกำลังพลจากกองทัพอากาศของทั้ง 3 ประเทศ คือ กองทัพอากาศ, กองทัพอากาศสิงคโปร์ และกองกำลังสหรัฐอเมริกา จำนวนกว่า 1,471 คน พร้อมด้วยอากาศยานสมรรถนะสูง กว่า 68 เครื่อง 
และอากาศยานไร้คนขับ UAV อีกด้วย นอกจากกำลังพลและยุทโธปกรณ์จากกองทัพอากาศแล้ว ยังมีกำลังพลจากกองทัพบก กองทัพเรือ ร่วมทั้งเจ้าหน้าที่จาก บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กระทรวงคมนาคม เข้าร่วมการฝึกฯ
นอกจากนี้กองอำนวยการฝึกผสมฯ ได้คำนึงถึงปัญหาและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่การฝึก จึงได้จัดกิจกรรมด้านกิจการพลเรือนและกิจกรรมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ณ โรงเรียนบ้านโกรกเดือนห้า ณ จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 21 มีนาคม 2567 
และโรงเรียนบ้านเนินจันทร์ บริเวณสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ในวันที่ 26 มีนาคม 2567

การฝึกภาคสนาม(FTX: Field Training Exercise) ของการฝึกผสมทางอากาศ Cope Tiger 2024 ระหว่างกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force), กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) และกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)
ซึ่งมีพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ณ กองบิน๑ โคราช นั้น จะดำเนินขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๘-๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ณ กองบิน๑ จังหวัดนครราชสีมา, กองบิน๒ โคกกระเทียม สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล สนามฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก จังหวัดลพบุรี และกองบิน๒๓ จังหวัดอุดรธานี

อากาศยานของกองทัพอากาศไทยที่เข้าร่วมการฝึกผสม Cope Tiger 2024 ประกอบด้วยเช่น เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU และ F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ และ F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี,
เครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก SAAB Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศแบบที่๑ บ.ค.๑ Saab 340 ERIEYE AEW(Airborne Early Warning) ฝูงบิน๗๐๒ กองบิน๗ เป็นต้น

ในส่วนกองทัพอากาศสหรัฐฯเป็นครั้งแรกที่ส่งเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ แบบ Lockheed Martin F-35A Lightning II จำนวน ๘เครื่องจากฝูงบินขับไล่ที่๓๕๖(356th Fighter Squadron), กองบินขับไล่ที่๓๕๔(354th Fighter Wing), ฐานทัพอากาศ Eielson Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ Alaska
ร่วมกับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C Fighting Falcon จำนวน ๑๐เครื่องจากฝูงบินขับไล่ที่๓๕(35th Fighter Squadron) และฝูงบินขับไล่ที่๘๐(80th Fighter Squadron) กองบินขับไล่ที่๘(8th Fighter Wing) ฐานทัพอากาศ Kunsan สาธารณรัฐเกาหลีที่วางกำลังตั้งแต่การฝึก Cobra Gold 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f-35a-cope-tiger-2024.html)

กองทัพอากาศสิงคโปร์วางกำลังเครื่องบินขับไล่ Boeing F-15SG Strike Eagle ฝูงบิน142(142 Squadron) และฝูงบิน149(149 Squadron), เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 52 Fighting Falcon ฝูงบิน140(140 Squadron) และฝูงบิน143(143 Squadron) และ F-16D Block 52+ ฝูงบิน145(145 Squadron), 
เครื่องบินแจ้งเตือนทางอากาศ Gulfstream G550 AEW ฝูงบิน111(111 Squadron), และอากาศยานไร้คนขับ Israel Aerospace Industries(IAI) Heron 1 UAV ฝูงบิน119(119 Squadron) และ IAI Searcher UAV ฝูงบิน128(128 Squadron) เป็นต้นครับ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

เครื่องบินขับไล่ Tejas อินเดียตกเป็นครั้งแรก

Update: First crash for India's LCA Tejas



The Indian Air Force's HAL Tejas Mk 1 aircraft at the Dubai Airshow 2023. This is a representative photo of the Tejas FOC Mk 1. (HAL)


The Indian Air Force has reported its first loss of a LCA Tejas Mk 1 on 12 March 2024. (Indian Air Force)



กองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) ได้รายงานการสูญเสียครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 LCA(Light Combat Aircraft) ของตนจากอุบัติเหตุตกทางอากาศเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2024
กองทัพอากาศอินเดียกล่าวในแถลงการณ์ว่าเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 ได้ตกขณะ "เที่ยวบินการฝึกการปฏิบัติการ" ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศอินเดีย นักบิน "ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย"

กองทัพอากาศอินเดียเสริมว่า "ศาลไต่สวน(court of inquiry)ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อที่จะค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุ" วีดิทัศน์ความยาว 7วินาทีของอุบัติเหตุซึ่งถูกเผยแพร่วนเวียนใน X(Twitter เดิม)
แสดงให้เห็นว่านักบินดีดตัวที่ความสูงประมาณ 1,500-2,000feet ชุดภาพในวีดิทัศน์แสดงถึงเครื่องบินขับไล่ Tejas ยังคงที่จะร่อนต่อไปโดยปราศจากการควบคุมก่อนจะผ่านออกไปจากกรอบวีดิทัศน์

Janes ประเมินว่า วีดิทัศน์ได้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าน่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว Tejas FOC(Final Operational Capability) Mk 1 รุ่นขีดความสามารถความพร้อมการปฏิบัติการเต็มอัตรา
ตามที่จะระบุได้ชัดเจนโดยที่เครื่องบินมีท่อรับเชื้อเพลิงกลางอากาศ(IFR: In-Flight Refuelling)(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/tejas-mk2.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tejas.html)

ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศอินเดีย เครื่องบินขับไล่ Tejas FOC Mk 1 จากฝูงบินที่18(No.18 Squadron) "Flying Bullets" ได้ตกใกล้เมือง Jaisalmer ในรัฐ Rajasthan ทางตะวันตกของอินเดีย
กองทัพอากาศอินเดียกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2024 ว่าการตกของเครื่องบินขับไล่ Tejas FOC Mk 1 ได้เกิดขึ้นในเวลา 1415h ตามเวลาท้องถิ่น

ชุดภาพวีดิทัศน์เปิดเผยว่าเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 ไม่ได้ติดตั้งอาวุธ แต่ติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรองภายนอกสามถัง(หนึ่งถังในตำแหน่งจุดเข็งกลางลำตัว และหนึ่งถังในจุดแข็งบนปีกแต่ละข้าง)
ชุดภาพเคลื่อนไหววีดิทัศน์แสดงถึงนักบินได้ดีดตัวออกจากเครื่องบินขับไล่ Tejas ตามที่บินอยู่เหนือกลุ่มอาคารบ้านเรือนโดยที่กางฐานล้อลง Pratap Singh เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง(magistrate) เขตเมือง Jaisalmer กล่าวกับ Janes ว่า

เขาและเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปดูพื้นที่ที่เครื่องบินขับไล่ Tejas ตกและพบกับนักบินซึ่ง "แข็งแรงและสุขภาพดี" หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ได้เข้าไปดับไฟที่จุดตก ซึ่งเครื่องบินได้ตกใส่หอพักนักเรียนซึ่งขณะนั้นมีนักเรียนอยู่สามคนแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 
นี่เป็นอุบัติเหตุตกครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ Tejas ที่พัฒนาและผลิตโดย Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอากาศยานอินเดีย นับตั้งแต่เครื่องต้นแบบเครื่องแรกทำการบินครั้งแรกในปี 2001 ครับ

วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2567

เนเธอร์แลนด์เลือก Naval Group ฝรั่งเศสเป็นผู้ชนะโครงการทดแทนเรือดำน้ำชั้น Walrus

The Netherlands selects Naval Group for its Submarine Replacement program


Naval Group's Blacksword barracuda submarine for the Netherlands. 



Naval Group has been selected by The Netherlands Ministry of Defence for the Replacement Netherlands Submarine Capability project, based on the Barracuda family expeditionary submarines.



บริษัท Naval Group ฝรั่งเศสได้ถูกเลือกโดยกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์สำหรับโครงการทดแทนขีดความสามารถเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) ชั้น Walrus ของกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์(RNLN: Royal Netherlands Navy, Koninklijke Marine)
ด้วยเรือดำน้ำ Blacksword Barracuda บนพื้นฐานเรือดำน้ำโพ้นทะเลตระกูล Barracuda การตัดสินใจประกาศนี้เป็นการสรุปผลกระบวนการคัดเลือกที่เข้มงวดและเปิดช่วงการหารือเป็นพิเศษนำไปสู่การลงนามสัญญา
บริษัท Naval Group มีความกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการดำเนินการโครงการที่สำคัญนี้กับหุ้นส่วนเนเธอร์แลนด์และยุโรปของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/walrus-s802-hnlms-walrus.html)

Naval Group ฝรั่งเศสได้รับเกียรติโดยการติดสินใจประกาศที่แสดงโดยกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์ การตัดสินใจนี้มุ่งมั่นให้บริษัทจะนำความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเต็มรูปแบบมาใช้กับเนเธอร์แลนด์
มุ่งเป้าที่การสนับสนุนกองเรือดำน้ำกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์ และในการกระชับความร่วมมือกับกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์, หุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมและการวิจัยและพัฒนา(R&D: Research and Development) ต่างๆ

"เราเป็นเกียรติอย่างที่สุดที่ได้รับการเลือกโดยเนเธอร์แลนด์ตามการแข่งขันที่ยากและจะมีส่วนร่วมในความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของโครงการนี้ เรือดำน้ำตระกูล Barracuda จะมอบกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์ด้วยขีดความสามารถชั้นแนวหน้าที่เพิ่มขยายต่างๆ
ตอบสนองความต้องการต่างๆที่กำหนดโดยกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์ เรามองไปข้างหน้าเพื่อเริ่มการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหุ้นส่วนเนเธอร์แลนด์ของเราที่ปฏิบัติโครงการสำคัญนี่อย่างประสบความสำเร็จ
ซึ่งมีส่วนส่งเสริมต่อความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์" Pierre Éric Pommellet ประธานและผู้อำนวยการบริหารบริษัท Naval Group ฝรั่งเศสกล่าว

เรือดำน้ำ Blacksword Barracuda ในตระกูลเรือดำน้ำชั้น Barracuda ที่ถูกเลือกโดยกระทรวงกลาโหมเนเธอร์แลนด์เป็นเรือดำน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งจะสนับสนุนและเสริมกำลังความแข็งแกร่งกองกำลังทางเรือที่มีอยู่
ขอบคุณต่อขีดความสามารถการปฏิบัติการที่กว้างขวางและวิทยาการล่าสุดของเรือ เรือดำน้ำเหล่านี้จะคงการดำเนินภารกิจหลักในการปกป้องน่านน้ำอาณาเขตของประเทศและการสื่อสารของเส้นทางคมนาคมทางทะเลซึ่งเป็นความสำคัญต่อการค้าเสรี

Naval Group ขอขอบคุณการเลือกของเนเธอร์แลนด์สำหรับเรือดำน้ำโพ้นทะเลชั้น Blacksword Barracuda ของตน แต่ยังสำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระยะยาวด้วย
ในฐานะนักออกแบบเรือดำน้ำและผู้บูรณาการเรือดำน้ำที่มีประสบการณ์สำหรับความต้องการของลูกค้า Naval Group มุ่งมั่นที่จะส่งมอบขีดความสามารถนี้แก่กองทัพเรือเนเธอร์แลนด์

ปัจจัยสำคัญสำหรับโครงการนี้คือความต้องการความเป็นอิสระทางยุทธศาสตร์ที่ Naval Group สนับสนุนผ่านความร่วมมืออุตสาหกรรมที่ปรารถนา แผนนี้จะรวมเครือข่ายที่มีอยู๋ของ Naval Group ของหุ้นส่วนเนเธอร์แลนด์ในระบบสำคัญและส่วนประกอบ
ทำให้มั่นใจว่าระบบนิเวศของเนเธอร์แลนด์ที่พัฒนาและรักษาความเชี่ยวชาญและการมีส่วนร่วมตลอดอายุการใช้งานของเรือดำน้ำ เนเธอร์แลนด์เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์สำหรับบริษัทตั้งแต่วัสดุจนถึงโครงการวิจัยและพัฒนาร่วม
เราตั้งใจที่จะเติบโตความร่วมมือเพิ่มเติมและเราขอบคุณหุ้นส่วนเนเธอร์แลนด์ของเราทั้งหมดสำหรับการสนับสนุนของพวกตนและการอุทิศระหว่างขั้นตอนการคัดเลือก

Naval Group และหุ้นส่วนของเรากำลังระดมกำลังอย่างเต็มที่เพื่อจะเริ่มต้นการส่งมอบขีดความสามารถเรือดำน้ำโพ้นทะเล Blacksword Barracuda ใหม่เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเนเธอร์แลนด์
เรือดำน้ำโพ้นทะเล Blacksword Barracuda สำหรับกองทัพเรือเนเธอร์แลนด์ได้ถูกกำหนดเป็นเรือดำน้ำชั้น Orka ทั้งสี่ลำได้รับการตั้งชื่อว่าเรือดำน้ำ HNLMS Orka, เรือดำน้ำ HNLMS Zwaardvis, เรือดำน้ำ HNLMS Barracuda และเรือดำน้ำ HNLMS Tijgerhaai ตามลำดับ

เรือดำน้ำชั้น Orka จะเข้าประจำการได้ในกลางปี 2030s บริษัท Naval Group ฝรั่งเศสเป็นผู้ชนะเหนือบริษัท Saab สวีเดนที่เสนอเรือดำน้ำโพ้นทะเล C718 ที่มีพื้นฐานจากเรือดำน้ำชั้น A26 Blekinge(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/saab-c718.html)
และบริษัท Thyssenkrupp Marine Systems(TKMS) เยอรมนีที่เสนอเรือดำน้ำ Type 212CD ที่พัฒนาพร้อมแล้วสำหรับเยอรมนี, อิตาลี และนอร์เวย์(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/type-212-nfs.html) ซึ่งล่าสุด TKMS เยอรมนีได้ออกประกาศการยอมรับผลการตัดสินแล้วครับ

วันเสาร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2567

เรือฟริเกต F-515 TCG Istanbul ตุรกียิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Hisar-D จากแท่นยิง Midlas VLS

TCG Istanbul fires Hisar-D missile from Midlas VLS







TCG Istanbul seen transiting the Bosphorus Strait enroute to the test site on 2 March. (Oguz Eroguz)





กองทัพเรือตุรกี(Turkish Navy) ได้ดำเนินการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Hisar-D ที่ทำการยิงจากแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launch System) แบบ Midlas ที่ติดตั้งบนเรือฟริเกต F-515 TCG Istanbul เป็นครั้งแรกในสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม 2024
เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีเป็นครั้งแรกจาดแท่ยิงแนวดิ่ง VLS ที่พัฒนาในประเทศในทะเลหลวง เรือฟริเกต TCG Istanbul ถูกสังเกตพบขณะแล่นเรือขึ้นเหนือผ่านช่องแคบ Bosphorus ไปยังพื้นที่ทดสอบเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2024

Haluk Görgün ประธานสำนักงานอุตสาหกรรมกลาโหมตุรกี(Defence Industry Agency, SSB) ได้เผยแพร่วิดีทัศน์การยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Hisar-D จากแท่นยิงแนวดิ่ง Midlas VLS บนสื่อสังคม online
วีดิทัศน์แสดงถึงการบรรจุชุดบรรจุอาวุธปล่อยนำวิถีบนเรือฟริเกต TCG Istanbul ขณะที่เรืออยู่ฐานทัพเรือ Karadeniz Ereğli อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Hisar-D หนึ่งนัดได้ถูกทำการยิงจากแท่นยิงแนวดิ่ง Midlas VLS

อาวุธปล่อยนำวิถีด้วย radar แบบ Hisar-D ที่ถูกใช้ในการทดสอบเป็นรุ่นใช้งานบนเรือของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศป้องกันภัยทางอากาศ Hisar-O ที่ได้รับการพัฒนาสำหรับกองทัพบกตุรกี(Turkish Land Forces)
หัวค้นหาสร้างภาพความร้อน infrared ของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Hisar-O เดิมถูกแทนที่ด้วยหัวค้นหาคลื่นความถี่วิทยุสำหรับรุ่นใช้งานบนเรือ อาวุธปล่อยนำวิถี Hisar มีระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์คู่ dual-pulse ด้วยมีระยะยิงไกลประมาณ 25km

แท่นยิงแนวดิ่ง Midlas VLS ประกอบด้วยท่อยิง 16cell โดยแต่ละ module ของแท่นยิง Midlas ประกอบไปด้วยท่อยิง 8cell โดยแต่ละช่องบรรจุในแต่ละท่อยิงสามารถจะเข้ากันได้กับชุดบรรจุอาวุธปล่อยนำวิถีแบบสี่นัด
แท่นยิงแนวดิ่ง Midlas VLS เป็นแบบสถาปัตยกรรมเพิ่มขยายได้ และนั่นไม่มีข้อจำกัดสำหรับการเพิ่มขยาย ระบบเป็นไปตามมาตรฐานความเข้ากันได้ส่วนติดต่อพลังงาน MIL-STD-1399/NATO Standardisation Agreement(STANAG) 

แท่นยิงแนวดิ่ง Midlas VLS เป็นโครงการสำคัญสำหรับกองทัพเรือตุรกีตามที่ตนมองจะทดแทนแท่นยิงแนวดิ่ง MK-41 VLS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯซึ่งถูกติดตั้งบนเรือรบหลายลำของตุรกี
รวมถึงเรือฟริเกตชั้น G จำนวน 8ลำซึ่งเป็นเรือฟริเกตชั้น Oliver Hazard Perry ที่เคยประจำการในกองเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ที่ได้รับการปรับปรุง และเรือฟริเกตชั้น Barbaros(แบบเรือ MEKO 200 เยอรมนี) จำนวน 4ลำ

เรือฟริเกตชั้น Istanbul(TF-100) ได้รับการสั่งสร้างแล้ว 4ลำ โดยเรือลำแรกเรือฟริเกต F-515 TCG Istanbul ได้มีพิธีขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/istanbul.html)
รัฐบาลตุรกีอนุมัติแผนที่จะสร้างเรือฟริเกตชั้น Istanbul เพิ่มเติมอีก 4ลำ รวมทั้งหมดเป็น 8ลำ ซึ่งทั้งหมดสร้างในตุรกีและใช้ระบบอาวุธและอุปกรณ์บนเรือที่ตรุกีพัฒนาเองเป็นจำนวนมากครับ

วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567

ญี่ปุ่นทำพิธีประจำการเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สาม SS-515 Jingei

Japan commissions third Taigei-class submarine




Japan's third Taigei-class submarine, JS Jingei , seen here at its handover and commissioning ceremony on 8 March 2024. (Acquisition, Technology & Logistics Agency, Japan)



กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) ได้รับมอบและทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าโจมตี(SSK) ชั้น Taigei ลำที่สาม เรือดำน้ำ SS-515 JS Jingei เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2024 
สำนักงานจัดซื้อจัดจ้าง, วิทยาการ และการส่งกำลังบำรุง(ATLA: Acquisition, Technology & Logistics Agency) กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวใน post บน page สื่อสังคม online ทางการของตนเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2024

ชุดภาพที่ประกอบกับ post บ่งชี้ว่าธงนาวีกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นยังได้ถูกชักขึ้นบนเรือดำน้ำ SS-515 JS Jingei ในวันเดียวกับพิธีส่งมอบ บ่งชี้ว่าเรือได้ถูกขึ้นระวางประจำการในวันเดียวกัน
เรือดำน้ำ JS Jingei ถูกส่งมอบและขึ้นระวางประจำการ ณ อู่เรือบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นใน Kobe ซึ่ง MHI ญี่ปุ่นทำการปล่อยเรือลงน้ำในเดือนตุลาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/taigei-ss-515-jingei.html)

เรือดำน้ำชั้น Taigei มีระวางขับน้ำที่ราว 3,000tonnes ขณะอยู่บนผิวน้ำ และมีความยาวเรือรวมที่ราว 84m, ความกว้างเรือรวมที่ 9.1m, และตัวเรือกินน้ำลึกที่ราว 8.5m
เรือดำน้ำชั้น Taigei สามารถรองรับกำลังพลประจำเรือได้ที่ 70นาย และกำลังพลประจำเรือเหล่านี้รวมถึงการแยกส่วนห้องภายในเรือสำหรับกำลังพลที่เป็นผู้หญิงด้วย

รูปแบบรูปทรงของเรือดำน้ำชั้น Taigei ได้นำแบบแผนหางเสือท้ายเรือรูปตัวอักษร X มาใช้ ซึ่งทำให้เรือดำน้ำมีขีดความสามารถความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ที่ดียิ่งขึ้นโดยเฉพาะในเขตน้ำตื้น
เรือดำน้ำ JS Jingei ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซล Kawasaki 12V 25/25SB สองเครื่องและสามารถทำความเร็วสูงสุดต่อเนื่องได้ที่เกิน 20knots ขณะดำใต้น้ำ

เรือดำน้ำ JS Jingei ยังได้รับการติดตั้งแหล่งกักเก็บพลังงานไฟฟ้า lithium-ion battery แทนที่ battery แบบตะกั่ว-กรด เช่นเดียวกับเรือพี่สาวน้องสาวของเธอในเรือดำน้ำชั้น Taigei และเรือดำน้่ำชั้น Soryu สองลำสุดท้ายของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น
ขณะที่ได้รับการติดตั้ง sonar หัวเรือและ sonar ด้านข้างเรือ เรือดำน้ำ JS Jingei ยังสามารถจะปล่อยแผงระบบตรวจจับท้ายเรือเพื่อทำให้สามารถตรวจพบเรือข้าศึกได้ดียิ่งขึ้นตลอดทุกชั้นความร้อนในทะเลที่หลากหลาย

เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำแรกเรือดำน้ำ SS-513 JS Taigei เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/taigei-ss-513-taigei.html) โดยถูกเปลี่ยนการกำหนดแบบเป็นเรือดำน้ำทดสอบ SSE-6201 JS Taigei
ลำที่สองเรือดำน้ำ SS-514 JS Hakugei เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/taigei-ss-514-hakugei.html) และลำที่สี่เรือดำน้ำ SS-516 Raigei ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนตุลาคม 2023 และคาดว่าจะเข้าประจำการได้ในปี 2025 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/taigei-ss-516-raigei.html)

วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2567

เครื่องบินขับไล่ F-35A กองทัพอากาศสหรัฐฯมาไทยครั้งแรกเพื่อร่วมการฝึกผสม Cope Tiger 2024

US, Singapore, Thai service members participate in annual Cope Tiger











F-35A Lightning II’s assigned to the 354th Fighter Wing, Eielson Air Force Base, Alaska, sit on a runway prior to Exercise Cope Tiger 2024 at Korat Royal Thai Air Force Base, Thailand, March 7, 2024. 
This marks the first time in its 28th iteration of the exercise that 5th generation aircrafts are used in the Cope Tiger exercise. 
Units from the United States, Kingdom of Thailand and the Republic of Singapore Air Force have partnered together in this trilateral training to address regional security threats, humanitarian crises, and natural disasters. (U.S. Air Force Senior Airman Joao Marcus Costa and Royal Thai Air Force)

Welcome to Thailand F-35 USAF @ Wing1 ready for Multi-Lateral Exercise Cope Tiger 2024

หน่วยต่างๆจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force), กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) และกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) จะเข้าร่วมการฝึกร่วมผสมทางอากาศ Cope Tiger 2024 ณ ราชอาณาจักรไทย
การฝึกรวมผสม Cope Tiger ครั้งที่๒๘ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๗-๒๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) เป็นการฝึกทางอากาศไตรภาคีสามชาติที่มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มขยายความพร้อมและพัฒนาขีดความสามารถการทำงานร่วมกันเพิ่มเติม

การฝึกร่วมผสมทางอากาศ Cope Tiger 2024 ปีนี้เป็นครั้งแรกที่เครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ จะมีส่วนร่วมในการฝึก เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II จำนวน ๘เครื่องจากฝูงบินขับไล่ที่๓๕๖(356th Fighter Squadron), กองบินขับไล่ที่๓๕๔(354th Fighter Wing),
ฐานทัพอากาศ Eielson Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ Alaska จะร่วมกับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C Fighting Falcon จำนวน ๑๐เครื่องจากกองบินขับไล่ที่๘(8th Fighter Wing) ฐานทัพอากาศ Kunsan สาธารณรัฐเกาหลีที่วางกำลังในการฝึก Cobra Gold 2024 ก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/calfex-cobra-gold-2024.html)

การฝึก Cope Tiger 2024 เป็นการส่งเสริมต่อวิสัยทัศน์ทางยุทธศาสตร์ของกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกสหรัฐ((USINDOPACOM: US Indo-Pacific Command) ในการเสริมความแข็งแกร่งความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจต่อสันติภาพและความเจริญในภูมิภาค
การมีส่วนร่วมของเหล่ากำลังพลได้เป็นโอกาสเฉพาะที่จะทำการบินเหนือน่านฟ้าของไทยในกองบิน๑ โคราช จังหวัดนครราชสีมา, กองบิน๒ โคกกระเทียม จังหวัดลพบุรี และกองบิน๒๓ อุดรธานี ขณะที่ทำการฝึกกับหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ

การมีส่วนร่วมในการฝึก Cope Tiger 2024 ยังได้รับคุณค่าการฝึกผ่านการปฏิบัติการเครื่องบินขับไล่ทางยุทธวิธีผสม และการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญหัวข้อต่างๆ(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/amphibex-cobra-gold-2024.html)
การเสริมความแข็งแกร่งความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนยังคงเป็นลำดับความสำคัญสำหรับกองทัพอากาศแปซิฟิก(PACAF: Pacific Air Forces) และเป็นเหตุผลว่าทำไมสหรัฐฯได้มีส่วนร่วมในการฝึกร่วมผสมทางอากาศ Cope Tiger ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๓๗(1994)

ความเห็นวิเคราะห์
เครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II ของกองทัพอากาศสหรัฐฯได้เริ่มต้นการวางกำลังในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2024 โดยการเดินทางเยือนบรูไนเป็นครั้งแรก ณ ฐานทัพอากาศ Rimba กองทัพอากาศบรูไน(RBAirF: Royal Brunei Air Force) ระหว่างวันที่ ๑-๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗
และเดินทางมาลงจอดที่ฐานทัพอากาศ Paya Lebar สิงคโปร์เป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ ๔-๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ โดยมีการฝึกทางอากาศร่วมกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ ก่อนจะเดินทางมาลงจอดที่กองบิน๑ โคราช จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทยเมื่อวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗

สหรัฐฯได้นำเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ ของตนเข้าร่วมการฝึกผสมนานาชาติในไทยเป็นครั้งแรกในการฝึก Cobra Gold 2020 ในปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020) โดยเครื่องบินขับไล่ F-35B ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธินที่๑๒๑(Marine Fighter Attack Squadron 121, VMFA-121 'Green Knights') วางกำลังบนเรือยกพลขึ้นบกจู่โจมบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHA-6 USS America(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/lha-6-uss-america-cobra-gold-2020.html
และต่อมาในการฝึก Cobra Gold 2023 ในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) เครื่องบินขับไล่ F-35B  ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธินที่๑๒๒ VMFA-122 'The Flying Leathernecks' วางกำลังบนเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์อู่ลอยชั้น Wasp ชื่อ LHD-8 USS Makin Island(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/amphibex-cobra-gold-2023.html)

อย่างไรก็ตามในการฝึก Cobra Gold ที่ผ่านมานาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) นำเครื่องบินขับไล่ F-35B รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off Vertical Landing) ของตนปฏิบัติการจากเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) เท่านั้น การลงจอดของ F-35B ที่สนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ได้ถูกสั่งห้ามการเผยแพร่ภาพ
การลงจอดของเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่กองบิน๑ โคราช จึงเป็นครั้งแรกของเครื่องบินรุ่นนี้ที่ลงจอดในฐานบินของกองทัพอากาศไทย และมีการอนุญาตให้เผยแพร่ภาพได้อย่างเป็นทางการครับ

วันพุธที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2567

กองทัพบกไทย-สหรัฐฯทำพิธีเปิดการฝึกผสม Hanuman Guardian 2024
















Royal Thai Army (RTA) and US Army held opening ceremony for joint combined exercise HANUMAN GUARDIAN 2024 at RTA Artillery Center in Lopburi Province, Thailand on 11 March 2024. (Royal Thai Army)
Hanuman Guardian 2024 will be conducted from 11-22 March, 2024 in the Kingdom of Thailand. Primary exercise events include an RTA-led combined Staff Exercise; platoon and company-level Field Training Exercises and a Combined Live-Fire Exercise; as well as several smaller aviation, Counter-Improvised Explosive Devices, Unmanned Aircraft Systems and Military Working Dog Subject Matter Expert Exchanges, and medical support events. 
Hanuman Guardian is conducted in coordination with United States Indo-Pacific Command as part of the USARPAC Operations Pathways.

เปิดการฝึกผสม HANUMAN GUARDIAN 2024
กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ Ranger Battalion King’s Royal Guard

เริ่มแล้ว การฝึกร่วมผสม ทบ.ไทย-ทบ.สหรัฐฯ  รหัส Hanuman Guardian 2024 (HG24) ถือเป็นครั้งที่ 12 แล้ว นับตั้งแต่การฝึกร่วมผสมภายใต้รหัส HG ครั้งแรกในปี 2012 
การฝึกแลกเปลี่ยน CTX หน่วยยานเกราะStryker ทบ.ไทย จัดกำลังจาก กรมทหารราบที่ 111 ,กรมทหารราบ 112 ,กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ และ ทบ.สหรัฐฯจัดกำลังจาก กองพันที่ 1 กรมทหารราบที่ 17 (1-17 IN BN ) 
ในวันแรกจะเป็นการเรียนรู้การปฏิบัติร่วมกับรถยานเกราะ Stryker ดังนี้
 - การฝึกปรนนิบัติบำรุงยานเกราะ Stryker (PMCS)
 - การฝึกใช้ระบบ Remote Weapon System 
 - การฝึกการปฏิบัติเมื่อยานเกราะพลิกคว่ำ (Roll Over)
โดยเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันระหว่าง ทบ.ไทย และ ทบ.สหรัฐฯ

กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) และกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ได้ทำพิธีเปิดการฝึกร่วมผสมรหัส HANUMAN GUARDIAN 2024 ณ ศูนย์การทหารปืนใหญ่ จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ซึ่งเป็นการฝึกครั้งที่๑๒ แล้ว
ตั้งแต่เริ่มการฝึก HANUMAN GUARDIAN 2012 ครั้งแรกในปี พ.ศ.๒๕๕๕(2012) โดยในปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้เป็นการฝึกระหว่างกองทัพบกไทยและกองทัพบกสหรัฐต่อเนื่องจากการฝึก Balance Torch 2024 ซึ่งการฝึก Balance Torch 24-4 ได้เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ที่ผ่านมา

กองทัพบกไทยได้จัดกำลังจาก กรมทหารราบที่๑๑๑(111th Infantry Regiment) และกรมทหารราบที่๑๑๒(112th Infantry Regiment) กองพลทหารราบที่๑๑(11th Infantry) ซึ่งเป็นหน่วยทหารราบยานเกราะใช้รถสายพานลำเลียง รสพ.M113 APC และยานเกราะล้อยาง Stryker RTA ICV 8x8 ตามลำดับ
กองพันทหารปืนใหญ่ที่๑๑(11th Artillery Battalion), กรมทหารปืนใหญ่ที่๑ รักษาพระองค์, กองพลที่๑ รักษาพระองค์(1st Artillery Regiment, 1st Division Royal Guard) ที่ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งแบบลากจูงขนาด 105mm แบบที่๑ LG1 Mk III(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/lg1-mk3-105mm.html)

กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ พัน.จจ.รอ(Ranger Battalion King's Guard) กรมรบพิเศษที่๓ รักษาพระองค์  รพศ.๓(3rd Special Forces Regiment King's Guard) กองพลรบพิเศษที่๑ พล.รพศ.๑(1st Special Forces Division) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(SWCOM: Special Warfare Command) 
และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๖๐ Sikorsky UH-60M Black Hawk กองพันบินที่๙(9th Aviation Battalion), กรมบิน(Aviation Regiment) ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.(AAC: Army Aviation Center) รวมถึงสุนัขทหารจาก ศูนย์การสุนัขทหาร(MDC: Military Dog Center) กรมการสัตว์ทหารบก(Veterinary and Remount Department)

กองทัพบกสหรัฐฯได้จัดกำลังหลักจากกองพันที่1 กรมทหารราบที่17(1st Battalion, 17th Infantry Regiment) กองพลน้อยชุดรบ Stryker ที่2(2nd SBCT: 2nd Stryker Brigade Combat Team) กองพลทหารราบที่2(2nd Infantry Division) กองทัพบกแปซิฟิกสหรัฐฯ(USARPAC: US Army Pacific)
การฝึก HANUMAN GUARDIAN 2024 จะดำเนินในระหว่างวันที่ ๑๑-๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ โดยใช้พื้นที่ของกองทัพภาคที่๑(1st Army Area) กองทัพบกไทยเป็นหลัก ซึ่งครอบคลุมการฝึกภาคสนามหลายด้านอาทิการบิน, การต่อต้านระเบิดแสวงเครื่อง และการฝึกยิงด้วยกระสุนจริงเป็นต้นครับ