วันพฤหัสบดีที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2558

นิตยสาร TOPGUN ฉบับที่199 การเปลี่ยนรูปแบบใหม่ของหนังสือทหารไทยที่ไม่ต่างจากที่คาดไว้นัก


นิตยสาร TOPGUN ฉบับที่198 ซึ่งออกวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้นส่วนตัวหาหนังสือวางแผงได้ยากมาก
เพราะไปเจอซื้อได้ที่ร้านหนังสือ SE-ED ในห้างสรรพสินค้าเมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ จากที่เดิมทีจะสามารถซื้อ นิตยสาร TOPGUN ได้ที่แผงหนังสือทั่วไปที่ตลาดมาตลอด
และสำหรับนิตยสาร TOPGUN ฉบับที่199 ที่วางแผงไปเมื่อราววันที่ ๓๐ ธันวาคมที่ผ่านมา ก็หาตามแผงหนังสือทั่วไปได้ยากเช่นเดิม
โดยส่วนตัวค่อนข้างแปลกใจที่ TOPGUN ฉบับประจำเดือนมกราคม ๒๕๕๘ ออกมาเร็วกว่าที่คาดว่าคือออกในช่วงสิ้นปีนี้ จากที่มีข่าวว่าจะออกทุกวันที่ ๒๕ ของเดือน
แต่กลับไม่มีช่องทางการประชาสัมพันธ์วันที่จะออกวางแผงที่แน่ชัดซึ่งเป็นข้อเสียสำคัญอย่างยิ่งของนิตยสารหัวนี้ในขณะนี้

สำหรับเนื้อหาของนิตยสาร TOPGUN ฉบับที่199 ที่ทำการปรับปรุงใหม่เพิ่มหน้าเป็น ๑๒๘หน้า ราคา ๘๙บาท นั้นส่วนตัวเองก็มองว่าเป็นรูปแบบที่คาดไว้ว่าจะต้องเป็นอย่างนี้
คือโดยรวมนิตยสาร TOPGUN ยังคงเป็นนิตยสารทหารที่มีหัวข้อเด่นหลักที่ทีมงานไปทำข่าวเองขึ้นปก บทความแปลจากต่างประเทศ ยุทโธปกรณ์และประวัติศาสตร์ทหาร บทความวิเคราะห์ทางวิชาการ
แนวทางพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การรณรงค์ความรักชาติและประวัติศาสตร์ไทย ข่าวประชาสัมพันธ์หน่วยงานราชการ นำหัวข้อแบบจำลองและการป้องกันตัวกลับมา ข่าวการเมืองสายทหาร
และเพิ่มบทความอื่น เช่น กีฬาและกิจกรรมทางทหารอย่าง BB Gun ท่องเที่ยวเขตทหาร พระเครื่อง อบต. และกฎหมายเข้าไป (ไม่นับโฆษณาหน้าสีหลายหน้า)
ซึ่งนั่นทำให้ข้อติเดิมๆที่ว่านิตยสาร TOPGUN ดูเหมือนวารสารของหน่วยงานราชการบวกกับหนังสือพิมพ์ข่าวการเมืองสายทหารและหนังสือพระยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่
อีกทั้งราคาที่ตั้งไว้ ๘๙บาท ซึ่งมีหน้าสีกระดาษอาร์ตมันจำนวนหนึ่งกับหน้าขาวดำเป็นส่วนใหญ่ของเล่มแล้วมองว่าการตั้งราคานี้ค่อนข้างแพงไปสักหน่อย
ถ้าเทียบนิตยสาร Tango ซึ่งมีจำนวนหน้าน้อยกว่าเล็กน้อยคือ ๑๒๔หน้าแต่ราคา ๗๐บาท หรือนิตยสารสมรภูมิ ที่ถึงจะเป็นรายสะดวกออกมีเพียง ๖๔หน้า แต่ก็เป็นกระดาษอาร์ตมันสีทั้งเล่ม
ในส่วนคุณภาพการพิมพ์ของโรงพิมพ์ที่นิตยสาร TOPGUN พิมพ์ล่าสุดก็จัดว่าไม่ค่อยดี เพราะมีหน้ากระดาษติดบ้าง พิมพ์หมึกจาง หรือสีเลอะหลายหน้าปนคละกันไปทุกเล่มที่วางแผงในร้าน

คงต้องขอกล่าวเช่นเดิมกับสองบทความก่อนหน้านี้ว่าเรื่องสำคัญที่สุดที่นิตยสาร TOPGUN จะต้องแก้ไขในฉบับต่อๆไปคือเรื่องสายส่งกับการประชาสัมพันธ์เรื่องวันวางแผงครับ
เพราะถ้าคนอ่านหาซื้อหนังสือลำบากตัวหนังสือเองก็คงจะอยู่ยาก
ส่วนเรื่องรูปแบบหนังสือในส่วนบทความหัวข้อต่างๆที่บางหัวข้อไม่น่าสนใจรวมถึงโฆษณานั้นก็คงจะต้องเป็นอย่างนั้นไปจะไปว่าก็คงไม่ได้ครับ