วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2558

กองทัพอินเดียเดินหน้าโครงการพัฒนาปืนเล็กยาว Excalibur

Indian Army pushes ahead with Excalibur rifle programme

The Indian Army is supporting the OFB's Excalibur 5.56 mm assault rifle programme. (OFB)
http://www.janes.com/article/54148/indian-army-pushes-ahead-with-excalibur-rifle-programme

กองทัพบกอินเดียเร่งการดำเนินการพัฒนาและผลักดันโครงการปืนเล็กยาวจู่โจม Excalibur ขนาด 5.56x45mm ที่อินเดียพัฒนาและออกแบบเองในประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะสูญญากาศในการปฏิบัติการ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพอินเดียได้กล่าวกับ Jane's ว่าปืนเล็กยาว Excalibur ต้นแบบ 200กระบอกซึ่งถูกสร้างที่โรงงานปืนเล็กยาว Rifle Factory Ishapur (RFI) ของโรงงานสรรพาวุธ Ordnance Factory Board (OFB) ทางตะวันออกของอินเดีย
จะเข้าสู่ขั้นตอนการประเมินผลและทดสอบภายในปี 2015 นี้ โดยกองทัพอินเดียมีแผนจัดหาปืนเล็กยาว Excalibur จำนวน 600,000กระบอก วงเงิน36พันล้านรูปี($541 million) หรือคิดเป็นกระบอกละ 60,000รูปี($904.62)
กองทัพบกอินเดียได้ตั้งโครงการปืนเล็กยาว Excalibur ขึ้นมาใหม่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา หลังยกเลิกโครงการจัดหาปืนเล็กยาวหลายขนาดลำกล้อง(5.56x45mm และ 7.62x39mm) จำนวน 66,000กระบอกที่ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2011
ซึ่งการแข่งขันครั้งนั้นปืนเล็กยาวจากต่างประเทศสี่แบบคือ Beretta ARX-160 อิตาลี, Colt CM-901 สหรัฐฯ, CZ-805 Bren สาธารณรัฐเชค และ IWI Galil ACE อิสราเอล นั้นไม่มีปืนแบบใดที่ผ่านความต้องการของอินเดีย

http://ofbindia.gov.in/products/data/weapons/wsc/23.htm
ปืนเล็กยาว Excalibur ใหม่นี้เป็นการพัฒนาจากปืนเล็กยาวตระกูล INSAS ซึ่งเข้าประจำการในปี 1998 ที่องค์การพัฒนาและวิจัยด้านความมั่นคง DRDO (Defence Research and Development Organization) อินเดียพัฒนาเอง
โดยลำกล้องสั้นลง 4mm มีน้ำหนักเบาขึ้น(ตัวปืนเปล่า 3.81kg เมื่อบรรจุกระสุนเต็มอัตรา 4.03kg) ใช้ซองกระสุนแบบ polycarbonate ที่โปร่งใสสามารถเห็นจำนวนกระสุนได้ความจุ 20นัด หรือ 30นัด
ทำการยิงได้แบบกึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติ (ขณะที่ปืนเล็กยาว INSAS ทำการยิงได้แบบกึ่งอัตโนมัติ และยิงชุดสามนัด) มีพานท้ายแบบพับได้ ขาทราย และมีราง Picatinny สำหรับติดตั้งกล้องเล็ง หรืออุปกรณ์เสริม
แม้จะเคยถูกปฏิเสธจากกองทัพบกอินเดียในปี 2010 เนื่องจากเหตุผลว่าปืนไม่มีความสามารถเพียงพอในการปฏิบัติการ แต่ปืนเล็กยาว Excalibur นี้จะถูกนำมาทดแทนปืนเล็กยาวตระกูล INSAS เองในอนาคต
ตามนโยบาย Made in India ของรัฐบาลอินเดียที่จะให้กองทัพอินเดียพึ่งพาอุตสาหกรรมด้านความมั่นคงของตนด้วยตนเองให้มากที่สุด
ซึ่งทางผู้บัญชาการกองทัพบกอินเดีย พลเอก Dalbir Singh ได้ออกมาสนับสนุนโครงการปืนเล็กยาว Excalibur อย่างเต็มที่ รวมถึง พลโท Sanjay Kulkarni จาก Director General Infantry (DGI)
ที่คาดหวังว่าการทดสอบตัวปืนด้วยยิงเมื่อแช่น้ำแช่โคลน ความเหมาะสมด้านสรีรศาสตร์ และความเป็นมิตรกับผู้ใช้ จะมีผลรายงานออกมาชัดเจนตามมาตรฐานเอกสารการขอข้อมูล(RFI)ที่สองนายพลมีการตรวจสอบร่วมกันเมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
ทาง OFB ตั้งเป้าว่าถ้าผ่านการทดสอบและจะสามารถเปิดสายการผลิตปืนเล็กยาว Excalibur ที่ดัดแปลงจากสายการผลิตปืนเล็กยาว INSAS เดิมได้ในปี 2016

อย่างไรก็ตามกองทัพบกอินเดียยังมีความต้องการจัดหาปืนเล็กสั้นสำหรับการรบระยะประชิด(CQB:Close Quarter Battle) จำนวน 44,618กระบอก ซึ่งตั้งโครงการขึ้นมาในปี 2010
โดยแบบปืนที่เข้าแข่งขันในปี 2013 มีเช่น Beretta ARX 160, IWI Galil ACE carbine และ Colt M4
เพราะนับตั้งแต่ปลดประจำการปืนกลมือ Stirling 1A1 ขนาด 9mm ที่ได้สิทธิบัตรในการผลิตเองในอินเดียตั้งแต่ปี 2010 กองทัพบกอินเดียก็ยังไม่มีปืนใหม่มาแทนในส่วนนี้ครับ