วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2559

กองทัพบกอังกฤษปลดประจำการรถเกราะ Warthog

British Army ditches Warthog armoured vehicle
The British Army has retired its Warthog (ST Kinetics Bronco) articulated armoured tracked vehicles, seen here in service in Afghanistan. Source: Crown Copyright
http://www.janes.com/article/58712/british-army-ditches-warthog-armoured-vehicle

กองทัพบกสหราชอาณาจักรได้ปลดประจำการรถเกราะสายพานพ่วง ST Kinetics Warthog ลงแล้ว โดยสหราชอาณาจักรได้จัดหารถเกราะสายพานพ่วง Warthog จำนวน 115คัน ซึ่งพัฒนามาจากรถเกราะสายพาน ST Kinetics Bronco สิงคโปร์
ตามความต้องการปฏิบัติการเร่งด่วน(UOR: Urgent Operational Requirement) เพื่อใช้งานอัฟกานิสถาน โดยมีขีดความสามารถการป้องกันอย่างน้อยดีเท่ารถเกราะสายพานพ่วง BvS 10 Viking ของ BAE Systems, Land Systems Hagglunds อังกฤษ-สวีเดน ที่เคยมีใช้งานอยู่แล้ว

ก่อนหน้านี้ในเดือนธันวาคม 2013 กระทรวงกลาโหมอังกฤษได้ประกาศว่ารถเกราะ Warthog จำนวน 100คันจะถูกนำเข้ามาในงบประมาณยุทโธปกรณ์หลัก
ซึ่งนั่นหมายความว่ารถจะยังคงประจำการต่อไปแม้ว่างบประมาณตามแผนความต้องการปฏิบัติการเร่งด่วนหลังปฏิบัติในอัฟกานิสถานของกองทัพสหราชอาณาจักรสิ้นสุดลง
ตามแผนดังกล่าวรถเกราะ Warthog จะถูกดัดแปลงเพิ่มเติมและนำเข้าประจำการในกรมทหารปืนใหญ่ที่32 และกรมทหารปืนใหญ่ที่47 เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการของอากาศยานไร้คนขับ UAV(Unmanned Aerial Vehicle)

อย่างไรก็ตาม Jane's ได้รับข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมอังกฤษเมื่อวันที่ 10 มีนาคมระบุว่าการตัดสินใจดังกล่าวได้เปลี่ยนไปแล้ว โดยรถเกราะ Warthog ที่มีอยู่ได้ปลดประจำการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2015 ในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมอังกฤษระบุว่า
"รถเกราะ Warthog ได้ถูกส่งมอบในปี 2010 เพื่อทดแทนรถเกราะ Viking และถูกออกแบบมาเป็นการเฉพาะเพื่อใช้งานในอัฟกานิสถาน จำนวนยานยนต์หุ้มเกราะได้ถูกนำเข้ามาในงบประมาณหลัก
มันเป็นการตัดสินใจว่าขีดความสามารถที่ต้องการจากรถเกราะ Warthog สามารถถูกแทนได้ด้วยยานยนต์แบบอื่น ดังนั้นรถเกราะ Warthog จึงถูกปลดประจำการไปในปี 2015 กองทัพบกยังมีระบบยานยนต์หุ้มเกราะแบบอื่นที่ยังคงประจำการอยู่ซึ่งมีขีดความสามารถเช่นเดียวกันนี้"

กระทรวงกลาโหมอังกฤษไม่ได้ตอบคำถามจากทาง Jane's ที่ว่า มีการดำเนินงานที่ได้ทำไปในการดัดแปลงรถเกราะ Warthog หลังจากเสร็จการใช้งานในอัฟกานิสถานตามการตัดสินใจที่จะคงประจำการรถในปี 2013
หรือถ้าจะมีวงเงินใดๆสูญเสียไปในความพยายามนี้หรือไม่ รวมถึงคำถามที่ว่ากรมทหารปืนใหญ่ที่32 และกรมทหารปืนใหญ่ที่47 จะได้รับยานยนต์แบบใดมาใช้แทนรถเกราะ Warthog ตามแผนเดิมในอนาคตหรือไม่ด้วยครับ