วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Lockheed Martin สหรัฐฯส่งมอบเครื่องบินลำเลียง C-130J เครื่องที่400แล้ว

Strength in Numbers: Lockheed Martin Delivers 400th C-130J Super Hercules Aircraft
Lockheed Martin delivered the 400th C-130J Super Hercules aircraft on Feb. 9, 2018. This milestone Super Hercules was delivered to the U.S. Air Force, which is the largest C-130J operator in the world. Photo by Amanda Mills, Lockheed Martin.
https://news.lockheedmartin.com/2018-02-12-Strength-in-Numbers-Lockheed-Martin-Delivers-400th-C-130J-Super-Hercules-Aircraft#assets_20295_128401-117:19454

บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯได้ก้าวเข้าสู่หลักชัยอันสำคัญด้วยการส่งมอบเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีสี่เครื่องยนต์ใบพัด C-130J Super Hercules เครื่องที่400 แก่ลูกค้า
โดย C-130J เครื่องที่400 ดังกล่าวเป็นรุ่นเครื่องบินลำเลียงปฏิบัติการพิเศษ MC-130J Commando II ที่จะเข้าประจำการในกองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศสหรัฐฯ(AFSOC: Air Force Special Operations Command, USAF: U.S. Air Force)

C-130J Super Hercules เป็นเครื่องในสายการผลิตปัจจุบันของตระกูลเครื่องบินลำเลียง C-130 Hercules อันเป็นตำนาน ซึ่งมีผู้ใช้งานทั่วโลก 17ประเทศ
ปัจจุบันฝูงบินเครื่องลำเลียง C-130J ทุกชาติทั่วโลกได้มีชั่วโมงบินสะสมมากกว่า 1.7ล้านชั่วโมงบินแล้วในการสนับสนุนแทบจะทุกภารกิจตามความต้องการ ทุกเวลา ทุกที่

"เราฉลองความสำเร็จนี้กับพนักงานของเรา, หุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมของเรา, และกลุ่มผู้ใช้งาน Super Hercules ที่มีถึง 17ประเทศ C-130J เครื่องที่400เครื่องแรกเหล่านี้ตรงตามความต้องการทั่วโลกเพื่อพิสูจน์สมรรถนะและความสามารถอันหลายหลายที่มีเฉพาะกับ Super Hercules เท่านั้น
ความทนทาน, ความสอดคล้อง และขีดความสามารถของมันจะคงต่อเนื่องใน C-130J ทุกเครื่องในฐานะตัวเลือกเครื่องบินลำเลียงทางยุทธวิธีระดับโลกในทศวรรษหน้าที่จะถึง " George Shultz รองประธานและผู้จัดการทั่วไปแผนกการขนส่งทางอากาศและทางทะเลของ Lockheed Martin กล่าว

C-130J ถูกจัดว่าเป็นเครื่องบินลำเลียงที่มีความสามารถอันหลากหลาย โดยปัจจุบัน C-130J สามารถถูกปรับแต่งเครื่องเพื่อรองรับภารกิจที่แตกต่างกันได้ 17รูปแบบ
ทั้งการลำเลียงขนส่ง(ทางทหารและทางการค้าพลเรือน), การดับเพลิง, การค้นหาและกู้ภัย, การปฏิบัติการพิเศษ, การลาดตระเวนสำรวจสภาพอากาศ และการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เป็นต้น

C-130J เครื่องที่400 นี้มีความแตกต่างไป โดยมันจะเป็นเครื่องรุ่น MC-130J เครื่องที่13 ที่ถูกดัดแปลงเป็นเครื่องบินลำเลียงโจมตี(Gunship) แบบ AC-130J Ghostrider ที่จะเข้าประจำการ ณ กองบินปฏิบัติการพิเศษที่1 ใน Hurlburt Field มลรัฐ Florida
AC-130J เป็นการนำเครื่องบินลำเลียง C-130J มาดัดแปลงอย่างมากหลายรายการเพื่อใช้ในภารกิจการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด(close air support), การขัดขวางทางอากาศ(air interdiction) และการลาดตระเวนติดอาวุธ

รัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้ใช้งานเครื่องบินลำเลียง C-130J Super Hercules รายใหญ่ที่สุดในโลก การส่งมอบเครื่องล่าสุดยังคงมีอย่างต่อเนื่องสำหรับทุกรุ่นทั้งใน
กองบัญชาการขนส่งทางอากาศ(AMC:Air Mobility Command), AFSCOC และกองบัญชาการยุทธทางอากาศ (ACC: Air Combat Command) กองทัพอากาศสหรัฐฯ, นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: U.S. Marine Corps) และหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ(USCG: U.S. Coast Guard)

กองกำลังพิทักษ์ชาติทางอากาศ(ANG: Air National Guard) และกำลังสำรองทางอากาศ(AFRC: Air Force Reserve Command) ยังคงมีใช้งานทั้ง C-130J และเครื่องรุ่นก่อนเช่น C-130H ซึ่งเริ่มใกล้จะถูกปลดประจำการลงตาม C-130E
ซึ่ง Lockheed Martin ได้ส่งมอบ C-130 ทุกรุ่นรวมมากกว่า 2,500เครื่องแก่ลูกค้ากว่า 70ประเทศทั่วโลกนับตั้งแต่ที่เครื่องต้นแบบ Lockheed YC-130 ทำการบินครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 1954

ทั้งนี้แม้ว่าจะเปิดสายการผลิตมาเป็นเวลาเกือบ 70ปีแล้ว แต่ Lockheed Martin สหรัฐฯยังคงได้รับสัญญาจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-130J จากทั้งในและต่างประเทศอยู่อย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้สามารถเปิดสายการผลิตต่อไปได้ไม่ต่ำกว่าอีก 10ปีข้างหน้า
สำหรับในส่วนของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ที่มีเครื่องบินลำเลียง บ.ล.๘ C-130H และ C-130H-30 ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ทั้ง ๑๒เครื่องที่เข้าประจำการมาตั้งปี พ.ศ.๒๕๒๓(1980) นั้น C-130J สหรัฐฯก็เป็นหนึ่งในแบบตัวเลือกเพื่อทดแทนครับ(http://aagth1.blogspot.com/2017/11/lockheed-martin-c-130j.html)